Passive Voice ฉบับเข้าใจง่ายภายใน 5 นาที
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีความยืดหยุ่นในการสร้างประโยคได้หลายแบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Active และ Passive Voice เพื่อแสดงว่าใครเป็นผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ ในบทความนี้เราจะอธิบายเรื่อง Passive Voice อย่างเข้าใจง่ายและรวดเร็ว ทำความรู้จัก ไวยากรณ์ Passive voice คืออะไร โครงสร้างและการใช้ Passive Voice ภายใน 5 นาที พร้อมตัวอย่างชัดเจน
- ผู้กระทำ (สามารถละไว้ได้)
- กริยาช่วย “to be” (เช่น is, am, are, was, were, been)
- กริยาประกอบ (past participle)
- ผู้ถูกกระทำ
- ผู้กระทำ
- กริยา (Verb)
- ผู้ถูกกระทำ
- ผู้กระทำ: นาย A
- กริยา: เขียน
- ผู้ถูกกระทำ: หนังสือ
- ประโยค: นาย A เขียนหนังสือ (Mr. A writes a book)
- Active Voice: บริษัทผลิตรถยนต์สร้างรถใหม่ (The car company produces new cars.)
Passive Voice: รถใหม่ถูกผลิตโดยบริษัทผลิตรถยนต์ (New cars are produced by the car company.) - Active Voice: ฉันรู้จักคนนี้ (I know this person.)
Passive Voice: คนนี้ฉันรู้จัก (This person is known by me.) - Active Voice: แม่ทำอาหาร (Mom cooks the meal.)
Passive Voice: อาหารถูกทำโดยแม่ (The meal is cooked by Mom.)
- ระบุผู้ถูกกระทำหรือสิ่งที่ถูกกระทำ โดยเน้นให้ผู้ถูกกระทำเป็นจุดสนใจ
- เลือกกริยาช่วย “to be” ที่เหมาะสมกับ tense ของประโยค (เช่น is, are, was, were)
- ใช้กริยาประกอบ (past participle) ที่มีความหมายเท่ากับกริยาหลัก
- หากต้องการระบุผู้กระทำ ให้ใส่ไว้ท้ายประโยค (ใช้ “by” นำหน้า)
- Active Voice: ครูสอนนักเรียน (The teacher teaches the students.)
Passive Voice: นักเรียนถูกสอนโดยครู (The students are taught by the teacher.) - Active Voice: บริษัทผลิตสินค้า (The company manufactures products.)
Passive Voice: สินค้าถูกผลิตโดยบริษัท (Products are manufactured by the company.) - หากไม่ต้องการระบุผู้กระทำ สามารถละได้ เช่น
Passive Voice: จดหมายนี้ถูกเขียน (This letter is written.)
การใช้ Passive Voice เน้นความสำคัญของผู้ถูกกระทำ มักใช้ในการเขียนเชิงวิชาการหรือเมื่อไม่ต้องการระบุผู้กระทำ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้ Passive Voice ได้ดียิ่งขึ้น