ในยุคที่การทำงานระดับสากลเป็นสิ่งจำเป็น การ จัดอบรมพนักงาน ภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งที่องค์กรควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างพนักงานกับลูกค้าหรือคู่ค้าต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับองค์กรได้ด้วยสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี 200% จากค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมภาษาอังกฤษ บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของการอบรมภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานและแนะนำคอร์สที่เหมาะสมสำหรับองค์กร

• เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการสื่อสาร การจัดอบรมพนักงานภาษาอังกฤษ ช่วยให้พนักงานสามารถ เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กรเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของการเข้าใจผิดในการสื่อสารระหว่างพนักงานกับลูกค้าหรือคู่ค้าต่างชาติ
• เพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษ การอบรมทักษะภาษาอังกฤษช่วยเพิ่มความสามารถในการพูด ทำให้พนักงานสามารถ เรียนพูดภาษาอังกฤษ อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องประชุม การเจรจาทางธุรกิจ หรือการสื่อสารกับทีมงานที่ใช้ภาษาอังกฤษ
• ยกระดับศักยภาพพนักงานและองค์กร พนักงานที่มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้องค์กรทำงานร่วมกับทีมงานจากต่างประเทศได้อย่างราบรื่น และมีโอกาสขยายตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น การจัด เทรนนิ่งพนักงานภาษาอังกฤษ จึงเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศักยภาพขององค์กรในระยะยาว
• สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี 200% องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากนโยบายการลดหย่อนภาษีของภาครัฐได้ โดยค่าใช้จ่ายในการจัดอบรมภาษาอังกฤษสำหรับพนักงานสามารถลดหย่อนภาษีได้ถึง 200% ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากการพัฒนาทักษะพนักงาน

HR ควรพิจารณาว่า เรียนภาษาอังกฤษสถาบันไหนดี ที่จะเหมาะกับความต้องการของพนักงานและเป้าหมายขององค์กร Speak Up Thailand นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีความยืดหยุ่นในการจัดการเรียนการสอน อีกทั้งยังสามารถปรับหลักสูตรให้เหมาะสมกับการพัฒนาทักษะของพนักงานโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ การเลือก สถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ ยังเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์องค์กรที่มีทีมงานทำงานจากหลายสถานที่ เนื่องจากพนักงานสามารถเข้าร่วมการอบรมได้ทุกที่และทุกเวลา

การจัดอบรมภาษาอังกฤษให้กับพนักงานไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะของทีมงาน แต่ยังมีประโยชน์ต่อองค์กรในแง่ของการลดต้นทุนทางภาษี โดยภาครัฐได้กำหนดให้ค่าใช้จ่ายในการจัดอบรมภาษาอังกฤษหรือการพัฒนาทักษะพนักงาน สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ถึง 200% ซึ่งหมายความว่าองค์กรสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการฝึกอบรมไปลดหย่อนภาษีมากกว่าค่าใช้จ่ายที่จ่ายจริง เพื่อให้ได้ประโยชน์นี้ องค์กรควรทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นตอนการซื้อคอร์สเรียนและใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี 200%

• เลือกคอร์สเรียนจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง ก่อนที่จะซื้อคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ องค์กรต้องตรวจสอบว่าสถาบันที่จัดการอบรมได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สถาบันที่มีการจดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการฝึกอบรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่นเดียวกับคอร์สจาก Speak Up Thailand ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรและพนักงานได้อย่างครอบคลุม
• เก็บรักษาหลักฐานการจ่ายเงิน หลังจากที่องค์กรทำการซื้อคอร์สเรียนแล้ว ควรเก็บหลักฐานการจ่ายเงินทั้งหมดไว้ให้ครบถ้วน ซึ่งประกอบด้วย ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งค่าใช้จ่าย และสัญญาหรือข้อตกลงที่ทำกับสถาบันฝึกอบรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอลดหย่อนภาษีในภายหลัง
• ยื่นเอกสารขอลดหย่อนภาษี เมื่อถึงช่วงเวลาการยื่นภาษี องค์กรสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อคอร์สฝึกอบรมภาษาอังกฤษนี้มายื่นขอลดหย่อนภาษีได้ถึง 200% โดยการกรอกแบบฟอร์มภาษีของกรมสรรพากร พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเสร็จรับเงินและเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของการฝึกอบรม
• ติดตามสิทธิประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี การลดหย่อนภาษี 200% เป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งหมายความว่าองค์กรสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการฝึกอบรมไปคูณสองแล้วหักจากรายได้เพื่อคำนวณภาษีตัวอย่างเช่น หากองค์กรใช้เงินในการจัดอบรม 100,000 บาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 200,000 บาท ส่งผลให้องค์กรจ่ายภาษีลดลงอย่างมาก