หลักการใช้แกรมม่า Present Perfect Tense และโครงสร้างประโยค

Present Perfect เป็นหนึ่งใน 12 Tenses (กาลเวลา) หลักแกรมม่าของงภาษาอังกฤษ ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่างปัจจุบันและอดีต ในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Present Perfect ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้าง หลักการใช้งาน รวมถึงตัวอย่างประโยคจากบทสนทนาที่พบในชีวิตประจำวันของเรา

Present Perfect คืออะไร?

Present Perfect Tense คือ Tense ในภาษาอังกฤษที่ใช้เพื่อเสริมความเกี่ยวข้องระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับอดีต โครงสร้างของ Present Perfect ประกอบด้วยคำกริยาช่วย “Have / has” และรูปกริยาช่วยขยาย (Past participle) เช่น “I have eaten” หรือ “She has traveled” โดยตามหลักแกรมม่าภาษาอังกฤษ Present Perfect Tense มักถูกใช้ในสถานการณ์ต่อไปนี้:

  • เมื่อเราต้องการกล่าวถึงประสบการณ์ในอดีตที่มีผลต่อปัจจุบัน เช่น “I have studied English, so I can communicate with foreigners.”
  • เพื่อบอกผู้อื่นว่าเราได้ทำอะไรบางอย่างแล้ว แต่ไม่ต้องการระบุเวลาที่เกิดเหตุการณ์นั้น เช่น “I have already finished my homework.”
  • เมื่อเราต้องการถามหรือตอบคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีตแบบที่ไม่เจาะจงเวลา เช่น “Have you ever been to New York?” “Yes, I have.”

โครงสร้าง Present Perfect Tense

Present Perfect Structure ในภาษาอังกฤษมีหลักจำง่าย ๆ คือ เริ่มต้นด้วยกริยาช่วย verb to have (have / has) ร่วมกับ past participle หรือที่เราคุ้นหูว่า กริยาช่องที่ 3
บางคนอาจสงสัยว่าแล้วจะต้องใช้ “have” หรือ “has” คำตอบคือให้เราพิจารณาประธานในประโยคนั้น กริยาช่วย “have” ใช้กับสรรพนามบุคคลที่ 1 และ 2 รวมถึงบุคคลที่ 3 รูปแบบพหูพจน์ ส่วนกริยาช่วย “has” ใช้กับสรรพนามบุคคลที่ 3 รูปแบบเอกพจน์):
– I have (I’ve)
– You have (You’ve)
– He / She / It has (He’s / She’s / It’s)
– We have (We’ve)
– They have (They’ve)


หลังจากนั้นใช้ “past participle” หรือกริยาช่อง 3 ซึ่งมักเป็นคำกริยาที่ลงท้าย -ed หรือคำกริยาบางคำที่มีรูปแบบพิเศษ (irregular verbs) เช่น:
– work (กริยาช่อง 1): worked (กริยาช่อง 3)
– eat (กริยาช่อง 1): eaten (กริยาช่อง 3)
– go (กริยาช่อง 1): gone (กริยาช่อง 3)

 
ก็จะได้เป็นโครงสร้าง “have” หรือ “has” ต่อด้วย “past participle” ดังตัวอย่างประโยคเหล่านี้
I have worked in this company for five years. (ผมทำงานในบริษัทนี้มาเป็นเวลาห้าปีแล้ว)
She has traveled to many countries. (เธอเดินทางไปหลายประเทศแล้ว)
และนี่คือตารางสรุปโครงสร้าง Present Perfect Tense ที่แสดงการใช้กริยาช่วย (have / has) ตามสรรพนามบุรุษที่ 1 2 และ 3 ทั้งในรูปแบบเอกพจน์และพหูพจน์

สรรพนามกริยาช่วย (have/has)กริยาช่อง 3 (past participle)ตัวอย่างประโยค
IhaveworkedI have worked here for five years.
YouhavetraveledYou have traveled to many places.
He/She/IthaseatenShe has eaten lunch already.
WehavestudiedWe have studied English grammar.
TheyhaveseenThey have seen that movie before.

หลักการใช้ Present Perfect ในประโยคบอกเล่า

การบอกเล่าประสบการณ์ในอดีต: เราใช้ Present Perfect เพื่อเล่าประสบการณ์หรือสิ่งที่เราได้ทำในอดีตโดยไม่ได้ระบุเวลาเฉพาะเจาะจง ตัวอย่าง:
– I have visited Japan. (ผมเคยไปญี่ปุ่น)
– She has eaten sushi before. (เธอเคยกินซูชิ)
การแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจุบันและอดีต: Present Perfect Tense ช่วยให้เราเข้าใจความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างปัจจุบันและอดีต โดยระบุว่าเหตุการณ์ในอดีตมีผลกระทบกับปัจจุบันอย่างไร ตัวอย่าง:
– I have studied English, so I can communicate with foreigners. (ผมเรียนภาษาอังกฤษมา ผมจึงสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้)
– They have lived in this town for years, so they know everyone. (พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองนี้มาหลายปีแล้ว ก็เลยรู้จักทุกคน)
การใช้เพื่อแสดงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่ยังคงสืบเนื่องจนถึงปัจจุบัน ตัวอย่าง:
– I have known him since we were children. (ฉันรู้จักเขาตั้งแต่เรายังเป็นเด็ก)
– She has worked at the same company for a decade. (เธอทำงานในบริษัทเดียวกันมาสิบปี)

การใช้ present perfect คำถาม ใช้ยังไง?

เราสามารถใช้ Present Perfect Tense เพื่อถามเกี่ยวกับประสบการณ์หรือเหตุการณ์ในอดีตได้ โดยใช้โครงสร้าง “Have / Has + ประธาน + กริยาช่อง 3” เช่น:
Have you ever been to New York? (คุณเคยไปนิวยอร์กหรือไม่?)
Has she finished her homework? (เธอทำการบ้านเสร็จหรือยัง?)
หมายเหตุ: การใช้ Present Perfect Tense บางกรณีอาจใช้กับเวลาที่เฉพาะเจาะจงได้ เช่น “in the last week” “since 2005” “for three hours” เพื่อแสดงระยะเวลาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีต ตัวอย่าง:
I have watched five movies in the last week. (ผมดูหนัง 5 เรื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา)
She has lived in London since 2010. (เธออาศัยอยู่ในลอนดอนตั้งแต่ปี 2010)

การใช้ Present Perfect Tense ใช้เมื่อไร ในบทสนทนาทั่วไป

ประสบการณ์การท่องเที่ยว: Present Perfect Tense ใช้เมื่อพูดถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เราเคยไปมา โดยไม่ต้องระบุเวลาเฉพาะเจาะจง เช่น
“I have visited Paris, Rome, and Tokyo.”
การทำงาน การศึกษา: เราสามารถใช้ Present Perfect เพื่ออธิบายถึงภูมิหลังการศึกษาหรือประสบการณ์การทำงานในอดีตที่มีผลต่อปัจจุบัน เช่น
“I have worked at this company for five years” หรือ “She has studied psychology.”
ความสำเร็จ: เมื่อเราต้องการที่จะเน้นความสำเร็จในอดีต เราสามารถใช้ Present Perfect เช่น
“They have finally achieved their goal.”
เหตุการณ์ในชีวิต: Present Perfect ยังสามารถใช้เพื่อพูดถึงประสบการณ์ที่สำคัญในชีวิต เช่น
“I have met many interesting people in my life.”

สรุปแกรมม่าเข้าใจง่าย

Present Perfect Tense ในภาษาอังกฤษ ช่วยให้เราเชื่อมโยงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกันระหว่างปัจจุบันและอดีต โดยสามารถใช้ Present Perfect ได้ในหลายวัตถุประสงค์ เพื่ออธิบายประสบการณ์ในอดีต เพื่อแสดงความสัมพันธ์ของระยะเวลาในอดีตและปัจจุบัน รวมไปถึงเพื่อเน้นความต่อเนื่องของเวลาในเหตุการณ์ที่กำลังอ้างถึง การใช้ Present Perfect Tense อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเสริมความชัดเจนในการสื่อสาร ทั้งยังทำให้รูปภาษาดูเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากขึ้น
คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของ Speak Up Thailand ในหลักสูตรมีหัวข้อ Present Perfect Tense ในหลักสูตรการเรียน น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้และปฏิบัติการใช้ Present Perfect Tense ในชีวิตประจำวันของคุณ การเรียนภาษาออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและยืดหยุ่นในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ และคุณครูเจ้าของภาษาจะช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทริคและเคล็ดลับการฝึกภาษาอังกฤษอื่นๆ

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับราคาที่คุ้มค่า

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษของ Speak Up Thailand ตอบโจทย์ทุกความฝัน และทุกความต้องการของคุณ ยิ่งเรียนระยะยาวยิ่งราคาลดลง  Speak Up Thailand เส้นทางสู่ความสำเร็จ

โปรโมชั่นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
พิเศษ สำหรับเดือนนี้เท่านั้น

Intensive Course เรียนสดออนไลน์ 40 ชั่วโมง 3 เดือน

เรียนสดออนไลน์กับคุณครูเจ้าของภาษา 40 ชั่วโมง
แถมฟรี! บทเรียน Multimedia 40 ชั่วโมง
แถมฟรี! Smart E-Book ลิขสิทธิ์เฉพาะ 40 ชั่วโมง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

Save