เคลียร์ทุกข้อสงสัย! หลักการใช้ A, An, The ในภาษาอังกฤษอย่างละเอียดพร้อมตัวอย่างใช้งาน 

Articles หรือ คำนำหน้านาม ในภาษาอังกฤษ มีหน้าที่ บ่งบอกจำนวนและความเฉพาะเจาะจง ของนาม เปรียบเสมือนป้ายบอกทางให้ผู้อ่านเข้าใจว่านามที่เรากำลังพูดถึงนั้นหมายถึงอะไรเช่น 

  • บ่งบอกความเฉพาะเจาะจง: Articles ช่วยให้ผู้พูดและผู้ฟังเข้าใจว่านามที่พูดถึงนั้นหมายถึงอะไร 
    • ตัวอย่าง: 
      • I have a dog. (ฉันมีสุนัขตัวหนึ่ง) – หมายถึงสุนัขตัวใดตัวหนึ่ง ไม่ระบุเจาะจง 
      • This is the dog that I want. (นี่คือสุนัขที่ฉันต้องการ) – หมายถึงสุนัขตัวที่พูดถึงก่อนหน้านี้ หรือสุนัขที่ผู้พูดและผู้ฟังเข้าใจว่าหมายถึงอะไร 
  • บ่งบอกจำนวน: Articles บ่งบอกว่านามที่พูดถึงนั้นเป็น เอกพจน์ หรือ พหูพจน์ 
    • ตัวอย่าง: 
      • I saw a bird. (ฉันเห็นนกตัวหนึ่ง) – นกตัวหนึ่ง เป็นเอกพจน์ 
      • I saw birds in the park. (ฉันเห็นนกในสวนสาธารณะ) – นกหลายตัว เป็นพหูพจน์ 
  • บ่งบอกประเภทของนาม: Articles ช่วยแยกแยะ นามนับได้ กับ นามนับไม่ได้ 
    • ตัวอย่าง: 
      • I want to eat an apple. (ฉันอยากกินแอปเปิ้ลลูกหนึ่ง) – แอปเปิ้ล เป็นนามนับได้ 
      • I need water. (ฉันต้องการน้ำ) – น้ำ เป็นนามนับไม่ได้ 

Articles มีอะไรบ้าง

Articles ในภาษาอังกฤษประกอบไปด้วย

  • Definite Article (The): เป็น “the” ซึ่งใช้เพื่อระบุว่าเรากำลังพูดถึงสิ่งหรือบุคคลที่เป็นที่รู้จักและเคยกล่าวถึงมาแล้ว เช่น “the cat” หรือ “the book”. 
  • Indefinite Article (A/An): เป็น “a” หรือ “an” ซึ่งใช้เพื่อระบุสิ่งหรือบุคคลที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยกล่าวถึงมาก่อน เช่น “a car” หรือ “an apple”. 
  • Zero Article: เป็นกรณีที่ไม่มีการใช้ article ใด ๆ เลย มักเกิดขึ้นในบางกรณี เช่น “I like bananas”. 

สรุปหลักการ ใช้ a an the

หลักการใช้ a

a ใช้กับคำนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะทั่วไป เช่น 

  • ตัวอย่าง a book, a dog, a table, a cat, a friend 

ข้อยกเว้น 
a สามารถใช้กับนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยบางตัวอักษรที่ออกเสียงเป็นพยัญชนะเช่น a one-hour meeting, a university, a European country และ ใช้กับนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร u ที่ออกเสียงเป็นเสียง /ju:/ เช่น a unit, a unicorn, a ukulele 

ตัวอย่างประโยคการใช้ a 

  • I have a dog. (ฉันมีสุนัขตัวหนึ่ง) 
  • I am eating a apple. (ฉันกำลังกินแอปเปิ้ลลูกหนึ่ง) 
  • I saw a man in the park. (ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งในสวนสาธารณะ) 
  • I live in a small town. (ฉันอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ) 
  • I have a meeting at a university tomorrow. (ฉันมีนัดประชุมที่มหาวิทยาลัยพรุ่งนี้) 

หลักการใช้ an

an ใช้กับคำนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยสระ (a, e, i, o, u)

  • ตัวอย่าง an apple, an egg, an umbrella, an orange, an island 

ข้อยกเว้น : an สามารถใช้กับนามเอกพจน์ที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร h ที่ออกเสียงเป็นเสียงเงียบเช่น an hour, an honor, an honest person 

ตัวอย่างประโยคการใช้ an

  • I am eating an apple. (ฉันกำลังกินแอปเปิ้ลลูกหนึ่ง) 
  • I saw an umbrella on the ground. (ฉันเห็นร่มคันหนึ่งอยู่บนพื้น) 
  • I have an honor to meet you. (ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบคุณ) 
  • She is an honest person. (เธอเป็นคนซื่อสัตย์) 
  • I need an hour to finish my work. (ฉันต้องการเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อทำงานให้เสร็จ) 

หลักการใช้ The

the ใช้เพื่อ บ่งบอกความเฉพาะเจาะจง ของนาม หมายความว่า ผู้พูดและผู้ฟังเข้าใจว่านามที่พูดถึงนั้นหมายถึงอะไร เช่น  

  1. ใช้กับนามที่มีเพียงหนึ่งเดียว: 
    ตัวอย่าง: the sun, the moon, the earth, the world, the universe 
  2. ใช้กับนามที่กล่าวถึงเป็นครั้งที่สอง: 
    ตัวอย่าง: I saw a dog in the park. The dog was chasing a ball. 
  3. ใช้กับนามที่เป็นสิ่งที่พิเศษหรือเฉพาะเจาะจง: 
    ตัวอย่าง: the best restaurant in town, the president of the United States 
  4. ใช้กับชื่อเฉพาะบางประเภท: 
    ตัวอย่าง: the United States, the United Kingdom, the Nile River 
  5. ใช้กับนามที่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น: 
    ตัวอย่าง: the Eiffel Tower, the Great Wall of China 
  6. ใช้กับนามที่เป็นสิ่งที่อยู่ในตำแหน่งเฉพาะ: 
    ตัวอย่าง: the top of the mountain, the bottom of the sea 

ตัวอย่างประโยคการใช้ the

  • I am going to the park. (ฉันกำลังจะไปที่สวนสาธารณะ) 
  • This is the book that I want to read. (นี่คือหนังสือที่ฉันอยากอ่าน) 
  • The teacher is explaining the lesson. (ครูผู้สอนกำลังอธิบายบทเรียน) 
  • I live in the United States. (ฉันอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา) 
  • I saw a dog chasing a ball. The dog was very fast. (ฉันเห็นสุนัขตัวหนึ่งไล่ลูกบอล สุนัขตัวนั้นวิ่งเร็วมาก)

และนอกจากเงื่อนไขที่เราได้กล่าวมาข้างต้นนั่น ยังเงื่อนไขอีกหลายอย่างที่อาจทำให้ผู้ที่เริ่มต้นในการเรียนสับสน เช่น การไม่ใช้ Articles กับ นามนับไม่ได้อย่าง water, air, love, money หรือนามรวมอย่าง food, furniture, clothes และ นามเฉพาะบางประเภทอย่าง John, Mary, Paris, Thailand 

การใช้ a an the ที่ถูกต้อง ช่วยให้ประโยคภาษาอังกฤษมีความชัดเจน สื่อความหมายได้ตรงประเด็น และฟังดูเป็นธรรมชาติ ยิ่งถ้าเราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก อย่างเช่น คอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก  คอร์สเรียนที่จะสอนให้เด็กๆออกเสียง เมื่อเด็กๆมีพื้นฐานในการออกเสียง ถ้าเด็กๆออกเสียงได้อย่างถูกต้องก็จะสามารถใช้แกรมม่าได้อย่างถูกต้องเอง โดยที่ไม่ต้องท่องจำ 

โปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นสุดคุ้มเฉพาะนักเรียนใหม่! คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save