5 ประเภทของ Pronoun
5 ประเภทของ Pronoun

5 ประเภทของ Pronoun ที่ต้องรู้ ช่วยพูดภาษาอังกฤษคล่องขึ้น

Pronoun คือคำสรรพนาม เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำนามหรือบุคคลที่เราต้องการอ้างถึง เพื่อลดความซ้ำซ้อนในประโยค ทำให้เราไม่ต้องระบุชื่อจริง สิ่งของ หรือบุคคลที่เรากล่าวถึงทุกครั้ง Pronoun จึงมีหน้าที่ช่วยให้ประโยคมีความกระชับมากขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำซ้อนโดยไม่จำเป็น

5 ประเภทของ Pronoun ที่ต้องรู้

Pronoun มีอยู่หลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและตำแหน่งที่ปรากฎในประโยค สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจ Pronoun ทั้งหมด เพียงทำความเข้าใจ Pronoun 5 ประเภทนี้ก่อนก็เพียงพอแล้ว

1.Personal Pronoun (สรรพนามแทนบุคคล)

เป็นสรรพนามที่ใช้บ่อยที่สุด และสำคัญมากที่สุด ซึ่งใช้แทนบุคคลหรือสิ่งของ เช่น “I” (ผม/ฉัน), “he” (เขา), “she” (เธอ), “they” (พวกเขา) เป็นต้น โดยมักใช้เพื่อทำให้ประโยคมีความกระชับ ลดความเยิ่นเย้อ

หลักการใช้ Personal Pronoun
– ใช้ “I” เมื่อต้องการกล่าวถึงตัวเอง
ตัวอย่าง: “I am going to the store.” (ฉันกำลังไปร้าน)
– ใช้ “you” เมื่อกล่าวถึงบุคคลที่เรากำลังสนทนาด้วย
ตัวอย่าง: “You should attend the meeting.” (คุณควรเข้าร่วมการประชุม)
– ใช้ “he” เมื่อกล่าวถึงผู้ชาย
ตัวอย่าง: “He is my brother.” (เขาคือพี่ชายของฉัน)
– ใช้ “she” เมื่อกล่าวถึงผู้หญิง
ตัวอย่าง: “She is my sister.” (เธอคือน้องสาวของฉัน)
– ใช้ “it” เมื่อกล่าวถึงทารก สิ่งของ หรือสัตว์เลี้ยง
ตัวอย่าง: “The book is on the table. It is interesting.” (หนังสืออยู่บนโต๊ะ เล่มนี้น่าสนใจ)
– ใช้ “we” เมื่อต้องการอ้างถึงกลุ่มของผู้พูด
ตัวอย่าง: “We are going on a vacation together.” (เรากำลังไปเที่ยวพร้อมกัน)
– ใช้ “they” เมื่อต้องการอ้างถึงกลุ่มของคนหรือสิ่งของ
ตัวอย่าง: “They are my friends.” (พวกเขาเป็นเพื่อนของฉัน)
– ใช้ “me” “him” “her” “us” “them” กรณีที่เป็นผู้รับการกระทำ หรือกรรมของประโยค
ตัวอย่าง: “She called me.” (เธอโทรหาฉัน)

2. Possessive Pronoun (สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ)

ใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของของบุคคลในประโยค เช่น “my” (ของฉัน) “his” (ของเขา) “our” (ของเรา) เป็นต้น

หลักการใช้ Possessive Pronoun
– ใช้ “my” เมื่อกล่าวถึงสิ่งของที่เป็นของผู้พูด
ตัวอย่าง: “This is my car.” (นี่คือรถของฉัน)
– ใช้ “your” เมื่อกล่าวถึงสิ่งของที่เป็นของผู้ฟัง
ตัวอย่าง: “Is this your book?” (นี่เป็นหนังสือของคุณหรือเปล่า?)
– ใช้ “his” เพื่ออ้างถึงสิ่งของที่เป็นของเขาผู้ชาย
ตัวอย่าง: “That is his laptop.” (นั่นคือแล็ปท็อปของเขา)
– ใช้ “her” เพื่ออ้างถึงสิ่งของที่เป็นของเธอ
ตัวอย่าง: “I borrowed her umbrella.” (ฉันยืมร่มของเธอ)
– ใช้ “its” เมื่อกล่าวถึงส่วนประกอบของสิ่งของ หรือสัตว์
ตัวอย่าง: “The cat is licking its paws.” (แมวกำลังเลียอุ้งมือของมัน)
– ใช้ “our” เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เป็นของกลุ่มของผู้พูด
ตัวอย่าง: “Our house is big.” (บ้านของเราใหญ่)
– ใช้ “their” เพื่อกล่าวถึงสิ่งที่เป็นของกลุ่มคนอื่น
ตัวอย่าง: “Those are their bicycles.” (นั่นคือจักรยานของพวกเขา)

3. Demonstrative Pronoun (สรรพนามชี้เฉพาะ)

ทำหน้าที่ชี้แสดงวัตถุหรือคนที่เราต้องการกล่าวถึง เช่น “this” (นี้) “that” (นั้น) “these” (เหล่านี้) “those” (เหล่านั้น) เป็นต้น

หลักการใช้ Demonstrative Pronoun
– ใช้ “this” เพื่อกล่าวถึงสิ่งของหรือคนที่อยู่ใกล้กับผู้พูด
ตัวอย่าง: “This is my cat.” (นี่คือแมวของฉัน)
– ใช้ “that” เมื่อกล่าวถึงคน สิ่งของที่อยู่ห่างจากตัวผู้พูด
ตัวอย่าง: “That is a beautiful sunset.” (นั่นเป็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม)
– ใช้ “these” เมื่อต้องการกล่าวถึงกลุ่มสิ่งของหรือคนที่อยู่ใกล้ผู้พูด
ตัวอย่าง: “These are my friends.” (คนพวกนี้คือเพื่อนของฉัน)
– ใช้ “those” เพื่ออ้างถึงกลุ่มคน หรือสิ่งของที่อยู่ไกลออกไปจากตัวผู้พูด
ตัวอย่าง: “Those birds are flying high.” (นกกลุ่มนั้นบินสูงลิ่ว)

4. Relative Pronoun (สรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้า)

มักนำหน้าอนุประโยค (relative clause) เช่น “who” (คนที่) “which” (สิ่งที่) “that” (ที่) เป็นต้น

หลักการใช้ Relative Pronoun
– ใช้ “who” เมื่อเรากล่าวถึงบุคคลในอนุประโยค
ตัวอย่าง: “The woman who is standing there is my sister.” (ผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่นั่นคือน้องสาวของฉัน)
– ใช้ “which” เมื่อต้องการอ้างถึงสิ่งของในอนุประโยค
ตัวอย่าง: “The car which is parked in the garage is mine.” (รถยนต์ที่จอดอยู่ในอู่นั้นคือของฉัน)
– ใช้ “that” เมื่อเราต้องการขยายบุคคลหรือสิ่งของในอนุประโยค (สามารถใช้แทน “who” หรือ “which” ได้ในบางกรณี)
ตัวอย่าง: “The book that I’m reading is very interesting.” (หนังสือที่ฉันกำลังอ่านนั้นน่าสนใจมาก)

5. Interrogative Pronoun (สรรพนามแสดงคำถาม)

มีหน้าที่เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับคนหรือสิ่งของในประโยค มักอยู่ในตำแหน่งหน้าสุด เช่น “who” (ใคร) “what” (อะไร) “which” (อันไหน) เป็นต้น

หลักการใช้ Interrogative Pronoun
– ใช้ “who” เมื่อต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล
ตัวอย่าง: “Who is that person over there?” (คนคนนั้นคือใคร?)
– ใช้ “what” เมื่อต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ตัวอย่าง: “What is your favorite color?” (สีที่คุณชอบคืออะไร?)
– ใช้ “which” กรณีที่ต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลือกที่มีหลายตัว
ตัวอย่าง: “Which book do you want to read?” (คุณต้องการอ่านหนังสือเล่มไหน?)
– บางครั้งอาจปรากฏร่วมกับคำว่า “one” (สิ่งหนึ่ง อันหนึ่ง) เพื่อแสดงการเปรียบเทียบตัวเลือกในคำถาม
ตัวอย่าง: “Which one do you prefer, the red shirt or the blue one?” (คุณชอบตัวไหนมากกว่าระหว่างเสื้อสีแดงกับเสื้อสีน้ำเงิน?)

การฝึกใช้ Pronoun ให้คล่องจะช่วยเพิ่มความเรียบง่าย ลดระยะเวลาในการสื่อสาร สามารถเล่าเรื่องหรือเขียนบทความได้อย่างกระชับ ไม่ยาวเกินไปจนน่ารำคาญ ดังนั้นการใช้ Pronoun เป็นอีกหนึ่งไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่ผู้เรียนควรหมั่นทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ เพื่อยกระดับการสื่อสารภาษาอังกฤษให้ดูเป็นธรรมชาติคล้ายกับเจ้าของภาษามากยิ่งขึ้น

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับราคาที่คุ้มค่า

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษของ Speak Up Thailand ตอบโจทย์ทุกความฝัน และทุกความต้องการของคุณ ยิ่งเรียนระยะยาวยิ่งราคาลดลง  Speak Up Thailand เส้นทางสู่ความสำเร็จ

โปรโมชั่นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
พิเศษ สำหรับเดือนนี้เท่านั้น

Intensive Course เรียนสดออนไลน์ 40 ชั่วโมง 3 เดือน

เรียนสดออนไลน์กับคุณครูเจ้าของภาษา 40 ชั่วโมง
แถมฟรี! บทเรียน Multimedia 40 ชั่วโมง
แถมฟรี! Smart E-Book ลิขสิทธิ์เฉพาะ 40 ชั่วโมง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

Save