Phonics พื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะการอ่านและการคิดวิเคราะห์สำหรับเด็ก
การเรียน Phonics สำคัญกับเด็กมาก เพราะช่วยให้เด็กสามารถอ่าน เขียน และออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง เรียกว่า โฟนิกส์เป็นขั้นแรกของการเรียนรู้ของเด็ก ถ้าเด็กๆ มีพื้นฐานของ โฟนิกส์ ที่แน่นก็จะช่วยในการเรียนในอนาคตของเด็กมีการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ตัวอักษรแต่ละตัวมีเสียง: ตัวอักษรภาษาอังกฤษแต่ละตัวมีเสียงเฉพาะตัว เช่น “a” ออกเสียงว่า /æ/ “b” ออกเสียงว่า /b/
- เสียงตัวอักษรผสมกันเป็นคำ: เสียงของตัวอักษรเมื่อผสมกันจะกลายเป็นคำ เช่น “cat” ประกอบด้วยเสียง /k/ /æ/ /t/ ผสมกันเป็นคำว่า “แคท”
- มีกฎเกณฑ์และรูปแบบ: มีกฎเกณฑ์และรูปแบบในการผสมเสียงตัวอักษร เช่น ตัวอักษร “c” มักออกเสียงว่า /k/ แต่เมื่ออยู่หน้าตัวอักษร “e” “i” “y” มักออกเสียงว่า /s/
- อ่านได้คล่องแคล่ว: เด็ก ๆ จะสามารถถอดรหัสตัวอักษรเป็นเสียงได้โดยไม่ต้องท่องจำคำศัพท์ทีละคำ ช่วยให้พวกเขาอ่านได้เร็วขึ้น เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น และมีความมั่นใจในการอ่านมากขึ้น
- เขียนได้ถูกต้อง: เด็ก ๆ จะสามารถสะกดคำศัพท์ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาคำศัพท์อ้างอิง ช่วยให้พวกเขาเขียนประโยคได้ถูกต้องและสื่อสารความคิดได้ชัดเจน
- ออกเสียงได้ชัดเจน: เด็ก ๆ จะสามารถออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องตามหลักการ phonetics ช่วยให้พวกเขาสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างเข้าใจง่าย
- เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ได้ง่าย: เมื่อเด็ก ๆ เข้าใจระบบ Phonics พวกเขาจะสามารถเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องท่องจำทีละคำ
- เสริมสร้างทักษะการคิด: การเรียน Phonics ช่วยให้เด็ก ๆ พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการแก้ปัญหา
- มีความมั่นใจ: เมื่อเด็ก ๆ สามารถอ่าน เขียน และออกเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้อง พวกเขาจะมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น
- Phonemic Awareness (การรับรู้เสียงพยัญชนะ) เป็นพื้นฐานเบื้องต้น คือความสามารถในการแยกแยะและจัดการกับเสียงของภาษา เช่น การแยกเสียง /b/ ในคำว่า “bat” จากเสียง /p/ ใน “pat” และการผสม /s/, /a/ และ /t/ เพื่อสร้าง “sat” เป็นต้น
- Phonics (การถอดรหัส) อาศัยพื้นฐานจาก Phonemic Awareness โดยเป็นการเชื่อมโยงระหว่างตัวอักษรกับเสียง เช่น รู้ว่า “ก” ออกเสียงว่า /ก/ หรือ “a” ออกเสียงว่า /a/ ทักษะนี้ช่วยให้เด็กสามารถถอดรหัสตัวอักษรเพื่อออกเสียงคำศัพท์ได้
- Fluency (ความคล่องแคล่ว) เมื่อเด็ก ๆ สามารถถอดรหัสเสียงจากตัวอักษรได้ (Phonics) ก็จะนำไปสู่การอ่านออกเสียงได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และออกเสียงชัดเจน โดยไม่ต้องสะดุด
- Vocabulary (คลังศัพท์) คือจำนวนคำศัพท์ที่รู้จักและเข้าใจความหมาย ยิ่งมีคลังศัพท์มาก ก็ยิ่งอ่านได้เข้าใจง่าย และสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Comprehension (ความเข้าใจ) ทักษะนี้หมายถึงความสามารถในการเข้าใจและตีความสิ่งที่อ่าน รวมถึงความคิดหลัก รายละเอียดสนับสนุน และจุดประสงค์ของผู้เขียน
- Critical Thinking (การคิดวิเคราะห์): ทักษะขั้นสูงที่อาศัยพื้นฐานจากทักษะทั้ง 5 ข้อก่อนหน้า คือความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผล วิเคราะห์ข้อมูลจากการอ่าน ประเมินข้อสรุป ตั้งคำถาม แก้ปัญหา และสามารถสื่อสารความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างชัดเจน
- Phonics มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานสำหรับการอ่านที่ประสบความสำเร็จ โดยการเข้าใจเสียงแต่ละเสียงที่ประกอบเป็นคำ เด็ก ๆ สามารถเชื่อมโยงเสียงเหล่านี้กับตัวอักษรที่พวกเขาเห็นเมื่อพวกเขาเรียนรู้ที่จะอ่าน ทักษะพื้นฐานนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถถอดรหัสคำใหม่ ๆ ปรับปรุงการอ่านที่คล่องแคล่ว และท้ายที่สุดกลายเป็นผู้อ่านที่เชี่ยวชาญ
- การถอดรหัส Phonics ช่วยให้เด็ก ๆ มีเครื่องมือในการแบ่งคำที่ไม่คุ้นเคยออกเป็นเสียงที่ประกอบกัน ช่วยให้พวกเขาสามารถออกเสียงคำเหล่านั้นและอ่านได้อย่างถูกต้อง
- การจดจำคำศัพท์ที่ใช้บ่อย Phonics สนับสนุนการพัฒนาการจดจำคำศัพท์ที่ใช้บ่อย เนื่องจากเด็ก ๆ สามารถระบุคำที่ใช้บ่อยได้ตามรูปแบบเสียง
- การสะกดคำ การเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเสียงและตัวอักษรมีความสำคัญต่อการสะกดคำอย่างถูกต้อง Phonics วางรากฐานสำหรับทักษะที่จำเป็นนี้
- การอ่านที่คล่องแคล่ว เมื่อเด็ก ๆ มั่นใจในการถอดรหัสและจดจำคำศัพท์ การอ่านที่คล่องแคล่วของพวกเขาจะดีขึ้น ช่วยให้พวกเขาอ่านได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย
- ความเข้าใจ Phonics ช่วยเพิ่มความเข้าใจโดยทำให้เข้าใจความหมายของคำและความสัมพันธ์ระหว่างคำในประโยคได้ง่ายขึ้น
- การปลูกฝัง Phonics ในนักเรียนที่อายุน้อยเป็นการลงทุนในความสำเร็จด้านการอ่านในอนาคตของพวกเขา โดยการผนวกรวมกิจกรรม Phonics เข้ากับการศึกษาปฐมวัยและให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เราสามารถช่วยให้เด็ก ๆ กลายเป็นผู้อ่านที่มั่นใจและเชี่ยวชาญ