Passive Voice ฉบับเข้าใจง่าย ไม่มีพื้นฐานก็เข้าใจได้

Passive Voice คืออะไร? เข้าใจง่ายใน 5 นาที Passive Voice เป็นโครงสร้างประโยคที่เน้นผู้รับผลจากการกระทำ มากกว่าผู้ทำการ ประโยคในภาษาอังกฤษสามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบหลัก คือ Active Voice (เน้นผู้ทำ) และ Passive Voice (เน้นผู้ถูกกระทำ) เราเคยเขียนอธิบายไว้แล้วว่า ไวยากรณ์ Passive voice คืออะไร แต่สำหรับในบทความนี้ จะอธิบายโครงสร้างและการใช้ Passive Voice อย่างละเอียด อ่านจบก็เข้าใจได้ทันที เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการทบทวน

Passive Voice คืออะไร?

Passive Voice คือรูปแบบของประโยคที่เน้นกับผู้ถูกกระทำ (ผู้รับผลการกระทำ) มากกว่าผู้กระทำ ในโครงสร้าง Passive Voice ประโยคจะมีการลำดับคำที่แตกต่างจากโครงสร้าง Active Voice (เน้นผู้กระทำ) โดยจะมีส่วนหลัก 4 ส่วน ได้แก่:

  1. ผู้กระทำ (ไม่จำเป็นต้องระบุ)
  2. กริยาช่วย “to be” (is, am, are, was, were, been)
  3. กริยาประกอบ (past participle)
  4. ผู้ถูกกระทำ

ตัวอย่าง

  • Active Voice: นาย A เขียนหนังสือ (Mr. A writes a book)
  • Passive Voice: หนังสือถูกเขียนโดยนาย A (The book is written by Mr. A)

ในรูปแบบประโยค Passive Voice ผู้กระทำ (นาย A) ไม่จำเป็นต้องระบุก็ได้ และเน้นไปที่หนังสือ (ผู้ถูกกระทำ) ว่าถูกเขียนโดยใคร

โครงสร้างของ Active Voice

ก่อนที่เราจะเรียนรู้วิธีการใช้ Passive Voice อย่าลืมเรื่องของโครงสร้าง Active Voice ที่มีการลำดับคำ ดังนี้:

  • ผู้กระทำ
  • กริยา (Verb)
  • ผู้ถูกกระทำ

ตัวอย่างประโยค Active Voice

  • กระทำ: นาย A 
  • กริยา: เขียน 
  • ผู้ถูกกระทำ: หนังสือ 
  • ประโยค:นาย A เขียนหนังสือ (Mr. A writes a book) 

ตัวอย่างประโยค Passive Voice

ต่อไปนี้คือตัวอย่างประโยค Passive Voice เปรียบเทียบคู่กับประโยค Active Voice:

  1. Active Voice: บริษัทผลิตรถยนต์สร้างรถใหม่ (The car company produces new cars.)
    Passive Voice: รถใหม่ถูกผลิตโดยบริษัทผลิตรถยนต์ (New cars are produced by the car company.)
  2. Active Voice: ฉันรู้จักคนนี้ (I know this person.)
    Passive Voice: คนนี้ฉันรู้จัก (This person is known by me.)
  3.  Active Voice: แม่ทำอาหาร (Mom cooks the meal.)
    Passive Voice: อาหารถูกทำโดยแม่ (The meal is cooked by Mom.)

วิธีการใช้ Passive Voice

การใช้ Passive Voice มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้:

  1. ระบุผู้ถูกกระทำหรือสิ่งที่ถูกกระทำ โดยแต่งประโยคให้มีการเน้นที่ผู้ถูกกระทำ
  2. เลือกกริยาช่วย “to be” ซึ่งขึ้นอยู่กับ tense (is, am, are, was, were, been) ตามใจความของประโยค
  3. ใช้กริยาประกอบ (past participle) โดยมีความหมายเทียบเท่ากับกริยาหลัก 
  4. ถ้าต้องการระบุผู้กระทำ สามารถเพิ่มข้อมูลในส่วนนี้ 

ตัวอย่างการสร้างประโยค Passive Voice:

การใช้ Passive Voice มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้:

  • Active Voice: ครูสอนนักเรียน (The teacher teaches the students.)
    Passive Voice: นักเรียนถูกสอนโดยครู (The students are taught by the teacher.)
  • Active Voice: บริษัทผลิตสินค้า (The company manufactures products.)
    Passive Voice: สินค้าถูกผลิตโดยบริษัท (Products are manufactured by the company.

สรุป

การใช้ Passive Voice Passive Voice ช่วยเน้นความสำคัญของผู้ถูกกระทำในประโยค โดยไม่จำเป็นต้องระบุผู้ทำทุกครั้ง เป็นโครงสร้างที่เข้าใจง่ายและใช้ได้ในหลายสถานการณ์ บทความนี้หวังว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ Passive Voice อย่างถูกต้อง

โปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นสุดคุ้มเฉพาะนักเรียนใหม่! คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save