คําศัพท์บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่านที่ควรรู้ บอกทางถูกไม่มีหลง

การสื่อสารเกี่ยวกับการ บอกทางภาษาอังกฤษ (Giving Directions) เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติหรือใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ คําศัพท์บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน ที่ใช้งานได้จริงและเข้าใจง่าย

คําศัพท์บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน

เดินตรงไป ภาษาอังกฤษ Go straight (โก สเตรท)

ตัวอย่างประโยค:

  • “Go straight for about 500 meters.” (ตรงไปประมาณ 500 เมตร)
  • “Keep going straight until you reach the intersection.” (ตรงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงสี่แยก)
  • “Go straight for 300 meters.” (ตรงไป 300 เมตร)

เลี้ยวซ้าย ภาษาอังกฤษ Turn left (เทิร์น เลฟท์)

ตัวอย่างประโยค:

  • “Turn left at the traffic light.” (เลี้ยวซ้ายที่ไฟจราจร)
  • “After 100 meters, turn left.” (หลังจาก 100 เมตร ให้เลี้ยวซ้าย)
  • “Turn left at the corner.” (เลี้ยวซ้ายตรงหัวมุม)

เลี้ยวขวา ภาษาอังกฤษ Turn right (เทิร์น ไรท์)

ตัวอย่างประโยค:

  • “Turn right at the corner.” (เลี้ยวขวาตรงหัวมุม)
  • “Turn right after you pass the gas station.” (เลี้ยวขวาหลังจากผ่านปั๊มน้ำมัน)
  • “Turn right after the traffic light.” (เลี้ยวขวาหลังไฟจราจร)

กลับรถ ภาษาอังกฤษ U-turn (ยูเทิร์น)

ตัวอย่างประโยค:

  • “You need to make a U-turn at the next intersection.”
    (คุณต้องกลับรถที่แยกถัดไป)
  • “If you miss the turn, just make a U-turn and come back.”
    (ถ้าคุณพลาดเลี้ยวไป ก็กลับรถแล้วกลับมา)
  • “There’s a U-turn point right after the bridge.”
    (มีจุดกลับรถทันทีหลังสะพาน)

เดินเลยไป ภาษาอังกฤษ Go past (โก พาสต์)

ตัวอย่างประโยค:

  • “Go past the bakery, and the library will be on your left.”
    (เดินเลยร้านเบเกอรี่ไป แล้วห้องสมุดจะอยู่ทางซ้ายของคุณ)
  • “Go past the traffic light, and you’ll see the hotel on your right.”
    (ผ่านไฟจราจรไปแล้วคุณจะเห็นโรงแรมอยู่ทางขวา)
  • “Go past the gas station, and take the first left turn.”
    (ผ่านปั๊มน้ำมันไป แล้วให้เลี้ยวซ้ายที่เลี้ยวแรก)

ข้ามถนน ภาษาอังกฤษ Cross the street (ครอส เดอะ สตรีท)

ตัวอย่างประโยค:

  • “Cross the street, and you’ll see the park.” (ข้ามถนน แล้วคุณจะเห็นสวนสาธารณะ)
  • “After you cross the street, turn right.” (หลังจากข้ามถนน ให้เลี้ยวขวา)

ตรงข้าม ภาษาอังกฤษ Across from (อะครอสฟรอม)

ตัวอย่างประโยค:

  • “The bus stop is across from the supermarket.”
    (ป้ายรถเมล์อยู่ตรงข้ามกับซูเปอร์มาร์เก็ต)
  • “The movie theater is across from the shopping mall.”
    (โรงภาพยนตร์อยู่ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้า)
  • “The school is across from the park.”
    (โรงเรียนอยู่ตรงข้ามกับสวนสาธารณะ)

ข้างๆ ภาษาอังกฤษ Next to (เน็กซท์ทู)

ตัวอย่างประโยค:

  • “The café is next to the bookstore.”
    (ร้านกาแฟอยู่ข้างๆ ร้านหนังสือ)
  • “My office is next to the bank.”
    (ที่ทำงานของฉันอยู่ข้างๆ ธนาคาร)
  • “The restaurant is next to the hotel.”
    (ร้านอาหารอยู่ข้างๆ โรงแรม)

อยู่ระหว่าง ภาษาอังกฤษ Between (บีทวีน)

ตัวอย่างประโยค:

  • “The post office is between the school and the hospital.”
    (ที่ทำการไปรษณีย์อยู่ระหว่างโรงเรียนกับโรงพยาบาล)
  • “My house is between the park and the river.”
    (บ้านของฉันอยู่ระหว่างสวนสาธารณะกับแม่น้ำ)
  • “The bakery is between the clothing store and the bookstore.”
    (ร้านเบเกอรี่อยู่ระหว่างร้านเสื้อผ้ากับร้านหนังสือ)

ใกล้ๆ ภาษาอังกฤษ Around (อะเราน์ดฺ)

ตัวอย่างประโยค:

  • “There are many shops around the station.”
    (มีร้านค้าหลายร้านอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ)
  • “You can find a few cafés around this area.”
    (คุณสามารถหาร้านกาแฟหลายร้านได้ใกล้ๆ แถวนี้)
  • “There are a lot of parking spaces around the building.”
    (มีที่จอดรถเยอะอยู่ใกล้ๆ กับอาคาร)

เลี้ยวตรงหัวมุม ภาษาอังกฤษ Around the corner (อะราวด์ เดอะ คอร์เนอร์)

ตัวอย่างประโยค:

  • “The coffee shop is just around the corner.” (ร้านกาแฟอยู่ตรงหัวมุมพอดี)
  • “There’s a grocery store around the corner from here.” (มีร้านขายของชำอยู่ตรงหัวมุมจากที่นี่)
  • “Turn left, and the bookstore is around the corner.” (เลี้ยวซ้าย แล้วร้านหนังสือจะอยู่ตรงหัวมุม)

ทางซ้ายของคุณ ภาษาอังกฤษ On your left (ออน ยัวร์ เลฟท์)

ตัวอย่างประโยค:

  • “The bank is on your left.” (ธนาคารอยู่ทางซ้ายของคุณ)
  • “The restaurant is on your left.” (ร้านอาหารอยู่ทางซ้ายของคุณ)

ทางขวาของคุณ ภาษาอังกฤษ On your right (ออน ยัวร์ ไรท์)

ตัวอย่างประโยค:

  • “The bus stop is on your right.” (ป้ายรถเมล์อยู่ทางขวาของคุณ)
  • “The restaurant is on your right.” (ร้านอาหารอยู่ทางขวาของคุณ)

ตัวอย่างการใช้คำศัพท์บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านในสถานการณ์จริง

A: ” “Excuse me, can you tell me how to get to the museum?”
(ขอโทษครับ/ค่ะ คุณช่วยบอกทางไปพิพิธภัณฑ์ได้ไหม?)
B: “Sure! Go straight for about 300 meters.
(ได้เลย! ตรงไปประมาณ 300 เมตร)
At the intersection, turn right.
(ที่สี่แยก ให้เลี้ยวขวา)
Then, cross the street and keep going straight.
(จากนั้น ข้ามถนน แล้วตรงไปเรื่อยๆ)
You’ll see a big park on your left.
(คุณจะเห็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายของคุณ)
The museum is just around the corner, on your right.”
(พิพิธภัณฑ์อยู่ตรงหัวมุมทางขวาของคุณ)”

เคล็ดลับในการบอกทางภาษาอังกฤษ

1. ใช้คำสั่งที่สั้นและชัดเจน: ไม่ต้องใช้ประโยคซับซ้อน คำที่ตรงไปตรงมาช่วยลดความสับสน
2. ใช้จุดสังเกตในการบอกทาง: การบอกทางด้วยจุดสังเกต เช่น ตึก ร้านค้า หรือไฟจราจร ทำให้ผู้ฟังเข้าใจได้ง่ายขึ้น
3. ใช้หน่วยวัดที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ: เช่น เมตร กิโลเมตร หรือบอกด้วยจำนวนแยกหรือตึกที่ต้องผ่าน

สรุป

การบอกทางภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเข้าใจคำศัพท์และประโยคพื้นฐาน การใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมาและใช้จุดสังเกตเป็นตัวช่วย จะทำให้การบอกทางชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หวังว่า คําศัพท์บอกทาง ภาษาอังกฤษ พร้อมคําอ่าน เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการบอกทางหรือสอบถามเส้นทางอย่างมีประสิทธิภาพ และการฝึกใช้คำเหล่านี้ในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษมากขึ้น

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษกับราคาที่คุ้มค่า

คอร์สเรียนภาษาอังกฤษของ Speak Up Thailand ตอบโจทย์ทุกความฝัน และทุกความต้องการของคุณ ยิ่งเรียนระยะยาวยิ่งราคาลดลง  Speak Up Thailand เส้นทางสู่ความสำเร็จ

โปรโมชั่นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
พิเศษ สำหรับเดือนนี้เท่านั้น

Intensive Course เรียนสดออนไลน์ 40 ชั่วโมง 3 เดือน

เรียนสดออนไลน์กับคุณครูเจ้าของภาษา 40 ชั่วโมง
แถมฟรี! บทเรียน Multimedia 40 ชั่วโมง
แถมฟรี! Smart E-Book ลิขสิทธิ์เฉพาะ 40 ชั่วโมง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

Save