อ่านภาษาอังกฤษให้เก่งด้วย 5 นิยายอังกฤษชื่อดัง ระดับ Beginner ก็อ่านได้

คิดเหมือนกันไหมว่า การฝึกอ่านภาษาอังกฤษจากในหนังสือเรียน (Textbook) ค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะเนื้อหามีความซ้ำซาก และไม่น่าดึงดูดเอาเสียเลย บทความนี้ จะมาแนะนำ 5 หนังสือนิยายภาษาอังกฤษน่าอ่าน ที่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ Speak Up Thailand คัดมาแล้วว่าเหมาะกับเพื่อนๆ ที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษระดับพื้นฐาน – ปานกลางอยู่ การอ่านภาษาอังกฤษจากนิยายนอกจากจะสนุกแล้ว ยังช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจไวยากรณ์ โครงสร้างประโยค รวมถึงเพิ่มคลังคำศัพท์แบบไม่น่าเบื่ออีกด้วย 

อ่านภาษาอังกฤษ จากนิยาย Classic ระดับโลก: Charlotte’s Web 

พนันเลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก วรรณกรรมเยาวชนสุดคลาสสิคชื่อดังอย่าง “Charlotte’s Web” หรือ ที่รู้จักกันในชื่อภาษาไทยว่า “แมงมุมเพื่อนรัก” นั่นเอง วรรณกรรมเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของหมูที่ชื่อ “Wilbur” ที่ได้มาพบกับแมงมุม “Charlotte” จนได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน โดยเนื้อเรื่องจะสื่อถึงมิตรภาพ การใช้ชีวิต และ การจากลา เป็นวรรณกรรมที่ทั้งสนุกและเศร้าไปในเวลาเดียวกัน 
วรรณกรรมเรื่องนี้เหมาะมากสำหรับคนที่อยากพัฒนาสกิลการอ่านภาษาอังกฤษ เพราะผู้เขียนใช้ภาษาที่เรียบง่าย ชัดเจน โครงสร้างประโยคไม่ซับซ้อน ทำให้เพื่อนๆ ที่เรียนภาษาอังกฤษระดับพื้นฐานสามารถทำความเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่าย นอกจากนั้นแล้ว บทสนทนา (Dialogue) ระหว่างตัวละครยังช่วยให้เพื่อนๆ พัฒนาสกิลการสนทนาภาษาอังกฤษได้ด้วย 

อ่านภาษาอังกฤษจากนิยายที่ดัดแปลงมาจาก Broadway Musical ชื่อดัง: Dear Evan Hansen

เมื่อปี 2021 เพื่อนๆ อาจจะเคยเห็นโปสเตอร์หนังเรื่อง “Dear Evan Hansen” ผ่านตามาบ้าง จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้เป็นละครเพลง Broadway Musical ที่ดังมากๆ มาก่อนในปี 2015 และยังถูกดัดแปลงเป็นหนังสือนิยายภาษาอังกฤษออกมาอีกด้วย แค่นี้ก็การันตีแล้วว่าเรื่องราวต้องสนุกมากแน่ๆ ถึงได้รับความนิยมขนาดนี้ Dear Evan Hansen เป็นเรื่องราวร่วมสมัยที่เกี่ยวข้องกับประเด็นต่างๆ ที่วัยรุ่นในปัจจุบันต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพจิต การใช้ชีวิตในโรงเรียน และการได้รับการยอมรับการคนรอบข้าง โดยมีตัวละครหลักที่ชื่อว่า “Evan” ดำเนินเรื่อง นอกจากจะสนุกแล้วยังมีข้อคิดดีๆ อีกด้วย 
 
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Dear Evan Hansen เหมาะสำหรับการฝึกอ่านภาษาอังกฤษ คือ การฟังเพลงประกอบ Broadway Musical ไปพร้อมกับการอ่านหนังสือนิยาย ถือเป็นโอกาสดีที่เพื่อนๆ จะได้ฝึกทำความเข้าใจเรื่องราวผ่านการวิเคราะห์และตีความหมายของเนื้อเพลงและบทกวีจากละครเวทีเรื่องนี้อีกด้วย 

อ่านภาษาอังกฤษจากนิทานขวัญใจเด็กๆ ทั่วโลก: The Cat in the Hat

ใครที่เรียนภาษาอังกฤษแต่พื้นฐานแกรมม่ายังไม่ค่อยแข็งแรง ลองเริ่มฝึกการอ่านภาษาอังกฤษง่ายๆ จากหนังสือนิทานเรื่อง “The Cat in the Hat” ก่อนก็ได้ หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดยนักเขียนหนังสือสำหรับเด็กชื่อดังอย่าง Dr. Seuss โดยนิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยสองคนที่ต้องติดอยู่ที่บ้านในวันฝนตก แต่ทันใดนั้นก็มีแมวรูปร่างคล้ายมนุษย์สวมหมวกลายสีแดงและสีขาวปรากฏขึ้นในบ้านของพวกเขาและเริ่มก่อความโกลาหลและสร้างความยุ่งเหยิง นิทานเรื่องนี้สนุกมากๆ จนได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปี 2003 
 
นิทานเรื่องนี้เหมาะกับคนที่เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐานสุดๆ เพราะใช้คำศัพท์ง่าย มีวลีภาษาอังกฤษที่สอดคล้องและน่าสนใจ รวมไปถึงภาพประกอบที่มีสีสันสดใสช่วยทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องได้ดียิ่งขึ้น 

อ่านภาษาอังกฤษจากนิยายอเมริกันชื่อดัง: To Kill a Mockingbird

นิยายเรื่อง To Kill a Mockingbird เล่าเรื่องราวชีวิตของสองพี่น้องคู่หนึ่งที่ต้องเติบโตในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ (The Great Depression) ในอเมริกา และต้องเผชิญกับการเหยียดเชื้อชาติ และความไม่เท่าเทียมในสังคม นิยายเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ในปี 1960 และภายหลังกลายเป็นนิยายสุดคลาสสิคที่นักเรียนมัธยมส่วนใหญ่ในอเมริกาอ่านกัน 
 
ภาษาอังกฤษที่ใช้ในนิยายเรื่องนี้ค่อนข้างอยู่ในระดับสูง แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน เพราะเนื้อเรื่องตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องตีความลึกซึ้ง ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เรียนภาษาอังกฤษระดับกลางเพราะมันครอบคลุมคำศัพท์และโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษที่ซับซ้อนมากขึ้น 

Tips

หากอยากให้การฝึกอ่านภาษาอังกฤษของเพื่อนๆ ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ลองนั่งพูดคุยและวิเคราะห์เนื้อเรื่องกับเพื่อนๆ หรือ คุณครูเจ้าของภาษา เป็นภาษาอังกฤษดู วิธีนี้จะช่วยให้ได้ฝึกสกิล Critical thinking และ สกิลการพูดภาษาอังกฤษด้วยนะ

อ่านภาษาอังกฤษจากหนังสือสารคดีประวัติศาสตร์: Diary of a Young Girl

“Diary of a Young Girl” หรือ “บันทึกลับ แอนน์ แฟรงค์” เป็นหนังสือสารคดีที่เขียนโดย แอนน์ แฟรงค์ เด็กสาวเชื้อสายยิวที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ในช่วงที่นาซียึดครอง โดยหนังสือเล่มนี้อ้างอิงมาจากไดอารี่ที่แอนน์เขียนมาตลอด 2 ปี (1942-1944) ในช่วงที่ต้องซ่อนตัวจากพวกนาซี 

หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นในสไตล์ไดอารี่ มีบทสนทนาเรียบง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็มีคำศัพท์มากมายที่ช่วยให้เพื่อนๆ ได้เพิ่มคลังคำศัพท์ใหม่ๆ และก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

อ่านภาษาอังกฤษจากนิยายยังไงให้ได้ผล?

เป็นยังไงกันบ้าง? มีนิยายเล่มไหนที่ถูกใจเพื่อนๆ เป็นพิเศษบ้าง โดยสรุปแล้ว การอ่านนิยายภาษาอังกฤษก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราพัฒนาสกิลการอ่านภาษาอังกฤษได้อย่างไม่น่าเบื่อ เพื่อนๆ สามารถเพิ่มคลังคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างไม่รู้จบ และทำความเข้าใจโครงสร้างทางภาษาผ่านรูปประโยคและเรื่องราวที่สนุกสนาน สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ ต้องฝึกอ่านภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ ทบทวนคำศัพท์บ่อยๆ รวมถึงหาโอกาสใช้สิ่งที่เรียนมาในชีวิตประจำวัน 
 
หากคุณกำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่เรียนกับ Native Speakers และมีบทเรียน Multimedia หลากหลาย ลองดูคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ของ Speak Up Thailand ที่ช่วยฝึกครบทุกทักษะ: ฟัง พูด อ่าน เขียน 

โปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นสุดคุ้มเฉพาะนักเรียนใหม่! คอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save