หลายคนอาจรู้สึกท้อแท้เมื่อเรียนภาษาอังกฤษ เรียนเท่าไรก็ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ สักที เพราะไม่ว่าจะพยายามเรียนเท่าไรก็ยังรู้สึกว่าไม่เข้าใจ ไม่สามารถพูดสื่อสารได้อย่างที่ตั้งใจไว้ หรือแม้แต่การฟังภาษาอังกฤษก็ยังรู้สึกว่าไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด บางครั้งฟังคำศัพท์ที่เรียนมาหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่สามารถแยกแยะเสียงหรือเข้าใจความหมายได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัญหาที่หลายคนพบเจอเมื่อต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะการขาดทักษะพื้นฐานในการแยกเสียงและผสมเสียงของคำในภาษาอังกฤษ หรืออาจเกิดจากการเรียนรู้ที่ไม่เหมาะสมกับวิธีการเรียนรู้ของตนเอง ซึ่งทำให้การเรียนภาษาอังกฤษกลายเป็นเรื่องยากและน่าหนักใจสำหรับหลายคน

1. ไม่สามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว
2. เรียนรู้ไวยากรณ์และคำศัพท์ แต่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง
3. การฟังและเข้าใจไม่ดี
4. ขาดความมั่นใจในการใช้ภาษา
5. การออกเสียงไม่ชัดเจน
6. ขาดแรงจูงใจและความต่อเนื่องในการเรียนรู้

1. Processing Speed (ทักษะด้านความเร็วในการประมวลผล): ทักษะนี้เกี่ยวข้องกับความสามารถในการรับข้อมูลและประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว ยิ่งความเร็วในการประมวลผลสูงเท่าใด เราก็ยิ่งสามารถทำความเข้าใจกับข้อมูลใหม่ ๆ และตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การมี Processing Speed ที่ดีจะช่วยให้เราทำงานหลายอย่างได้พร้อมกัน และสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
2. Working Memory (ทักษะด้านความจำขณะทำงาน): Working Memory คือความสามารถในการเก็บและจัดการข้อมูลในขณะทำงานหรือทำกิจกรรมบางอย่าง ทักษะนี้มีความสำคัญในการเรียนรู้ เพราะเราต้องใช้ความจำขณะทำงานเพื่อเก็บข้อมูลที่ได้รับในทันที และนำไปประมวลผลหรือเชื่อมโยงกับข้อมูลเก่า ๆ การที่ Working Memory ไม่ดีพออาจทำให้เกิดความยากลำบากในการเรียนรู้สิ่งใหม่หรือการทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก
3. Long-Term Memory (ทักษะด้านความจำระยะยาว): ทักษะนี้คือความสามารถในการจัดเก็บและเรียกคืนข้อมูลในระยะยาว ซึ่งมีความสำคัญต่อการเรียนรู้และการจดจำข้อมูลที่เราเรียนรู้มาในระยะยาว หาก Long-Term Memory ไม่ดีพอ เราอาจจำข้อมูลสำคัญไม่ได้นานหรือไม่สามารถเรียกคืนข้อมูลนั้นได้เมื่อจำเป็น
4. Visual Processing (ทักษะด้านการรับรู้ทางภาพ): ทักษะนี้เกี่ยวข้องกับความสามารถในการตีความและประมวลผลข้อมูลที่มาจากการมองเห็น เช่น การอ่าน การแยกรูปทรง หรือการจดจำใบหน้า ทักษะนี้สำคัญในการเรียนรู้ที่ต้องใช้ภาพเป็นส่วนประกอบ เช่น การอ่านหนังสือ การทำความเข้าใจกราฟหรือแผนภูมิ
5. Logic and Reasoning (ทักษะด้านตรรกะและเหตุผล): Logic and Reasoning คือความสามารถในการคิดวิเคราะห์ วางแผน และแก้ปัญหาผ่านการใช้เหตุผล ทักษะนี้มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ที่ต้องการการวิเคราะห์และการประมวลผลข้อมูลอย่างลึกซึ้ง เช่น การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ หรือการคิดวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ
6. Auditory Processing (ทักษะด้านการรับรู้ทางเสียง): ทักษะนี้คือความสามารถในการตีความและประมวลผลข้อมูลที่มาจากการได้ยิน เช่น การแยกแยะเสียงหรือการฟังคำพูดอย่างเข้าใจ Auditory Processing มีความสำคัญในการเรียนรู้ภาษาหรือการเรียนรู้จากการฟังบรรยาย การที่ทักษะนี้ไม่ดีพออาจทำให้เราเข้าใจข้อมูลที่ได้รับจากการฟังได้ยาก
7. English Word Attack (ทักษะด้านการแยกแยะคำและผสมเสียง): ทักษะนี้เป็นทักษะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการแยกเสียงของคำและการผสมเสียงในภาษาอังกฤษ English Word Attack ช่วยให้เราสามารถอ่านออกเสียงคำศัพท์ใหม่ได้อย่างถูกต้องและเข้าใจคำที่เราไม่เคยเจอมาก่อนโดยอิงจากความรู้เดิมที่มี ทักษะนี้มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เพราะการออกเสียงคำที่ถูกต้องและการเข้าใจคำศัพท์ใหม่ ๆ เป็นพื้นฐานสำคัญของการสื่อสารในภาษาอังกฤษ

กษะ English Word Attack มีบทบาทสำคัญในการทำให้เราสามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว การแยกแยะเสียงและผสมเสียงที่ถูกต้องช่วยให้เราสามารถเข้าใจคำศัพท์ใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น และช่วยในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยรวมแล้ว 7 ทักษะเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ การพัฒนาและเสริมสร้างทักษะเหล่านี้สามารถช่วยให้เราเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น

หากคุณรู้สึกว่าการเรียนภาษาอังกฤษของคุณไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร หรือมีปัญหาในการออกเสียงและเข้าใจคำศัพท์ใหม่ ๆ โปรแกรม Read RX อาจเป็นเครื่องมือที่ช่วยคุณพัฒนาทักษะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

1. การฝึกการแยกเสียงคำ (Phonemic Awareness): Read RX มีการฝึกฝนที่เน้นให้ผู้เรียนสามารถแยกแยะเสียงของพยางค์ต่าง ๆ ในคำศัพท์ได้ ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการออกเสียงและทำความเข้าใจคำศัพท์ใหม่ ๆ การฝึกการแยกเสียงคำนี้จะช่วยให้คุณสามารถอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว
2. การฝึกผสมเสียง (Blending Sounds): โปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณฝึกการผสมเสียงของพยางค์ต่าง ๆ เพื่อสร้างคำศัพท์ โปรแกรมจะเน้นให้คุณเข้าใจและสามารถผสมเสียงได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมีความสำคัญในการออกเสียงและการเข้าใจคำศัพท์ที่ซับซ้อนมากขึ้น
3. การปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลเสียง (Processing Speed for Sounds): การพัฒนาความเร็วในการประมวลผลเสียงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถฟังและทำความเข้าใจกับเสียงคำศัพท์ได้เร็วขึ้น ซึ่ง Read RX จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงทักษะนี้ได้ผ่านการฝึกฝนที่มีความเข้มข้นและสม่ำเสมอ
4. การเสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษา: การที่คุณสามารถแยกแยะและผสมเสียงคำได้อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการพูดและการฟังภาษาอังกฤษ เมื่อคุณมั่นใจในทักษะ English Word Attack ของคุณ คุณจะกล้าพูดและใช้งานภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้น