ในยุคโลกาภิวัตน์ที่ทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้มากขึ้น การมี ภาษาที่ 3 กลายเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญทั้งในการทำงาน การเรียน และการสื่อสารระหว่างประเทศ หลายคนเริ่มมองหาภาษาใหม่ ๆ ที่จะช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ แต่คำถามคือ “จะเลือกเรียนภาษาที่ 3 อะไรดี?” และ ภาษาไหนเรียนง่ายที่สุดสำหรับคนไทย? 

บทความนี้จะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ด้วยการจัดอันดับภาษาที่ 3 ที่เหมาะกับคนไทย พร้อมคำแนะนำว่าควรเลือกภาษาไหนให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณ 

การมี ภาษาที่ 3 ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในสายอาชีพ และขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเข้าใจวัฒนธรรมอื่นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเรียนรู้ภาษาที่สามยังช่วยฝึกสมองและเสริมความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย 

ตอนตัดสินใจเลือกเรียนภาษาที่ 3 คุณควรถามตัวเองก่อนว่า: 

• ภาษาแม่ของคุณคืออะไร? (สำหรับคนไทย จะมีพื้นฐานโครงสร้างประโยคและการออกเสียงเฉพาะตัว) 

• ภาษาที่ 2 ที่คุณพูดได้แล้วคืออะไร? (เช่น ภาษาอังกฤษ – จะช่วยให้เรียนภาษายุโรปอื่นได้ง่ายขึ้น) 

• เป้าหมายของคุณคืออะไร? 

– ต้องการใช้ เพื่อการทำงาน

– วางแผนเรียนต่อ ต่างประเทศ

– สนใจวัฒนธรรม/ บันเทิงจากประเทศนั้น

– อยากเดินทางท่องเที่ยวอย่างลึกซึ้ง

ทำไมคนไทยควรเริ่มเรียนภาษาสเปนเป็นภาษาที่ 3? 
ภาษาสเปนเป็นหนึ่งในภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศลาตินอเมริกา และสเปน ซึ่งรวมกันแล้วมีผู้พูดมากกว่า 400 ล้านคน ทำให้ภาษานี้เป็น “ทรัพย์สิน” ทางการสื่อสารที่มีมูลค่าสูง 

ข้อดีที่ทำให้เรียนง่าย 

• ใช้อักษร โรมัน (A-Z) แบบเดียวกับภาษาอังกฤษ 

• ออกเสียงตามตัวสะกดเป็นส่วนใหญ่ เช่น “comida” (โค-มี-ดา) แปลว่าอาหาร 

• ไวยากรณ์มีการผันกริยา แต่โครงสร้างประโยคโดยรวมเข้าใจง่าย และสามารถเรียนรู้ผ่านการฟัง-พูดได้เร็ว 

• เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ เพราะคำศัพท์บางส่วนมีรากศัพท์ร่วมกัน เช่น “información” (information) 

สรุป: เหมาะกับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาที่ 3 ที่อยากได้ผลเร็ว ใช้งานได้กว้าง และไม่ซับซ้อน 

จุดเด่นที่ทำให้เกาหลีเป็นภาษาที่น่าเรียนมาก 
แม้ภาษาเกาหลีจะไม่ใช่ภาษาสากล แต่กลับมีแรงจูงใจสูงจากวัฒนธรรม K-pop, ซีรีส์, อาหาร และแฟชั่น ทำให้หลายคนเรียนได้อย่างเพลิดเพลินและต่อเนื่อง 

ข้อดีที่ทำให้เรียนไม่ยาก: 

• ระบบเขียน “ฮันกึล (Hangul)” เป็นระบบอักษรที่ถูกออกแบบให้ “เรียนรู้ได้ภายในไม่กี่วัน” โดยมีโครงสร้างแบบพยางค์ผสมพยัญชนะและสระ 

• ออกเสียงชัดเจน ไม่มีวรรณยุกต์แบบภาษาไทยหรือจีน 

• คำศัพท์มีรูปแบบคงที่ เช่น 동생 (ทงแซง) แปลว่าน้อง 

• มีสื่อการเรียนฟรีเยอะ เช่น หนังสือเรียน, แอป, วิดีโอ และคนไทยจำนวนมากที่เรียนไปก่อน 

ข้อควรระวัง: 

• ไวยากรณ์มีระดับความสุภาพ ต้องใช้ให้เหมาะกับบริบท 

• การเรียงประโยคต่างจากภาษาไทย (เช่น “ฉันกินข้าว” จะกลายเป็น “ฉัน ข้าว กิน”) 

ทำไมคนไทยชอบเรียนภาษาญี่ปุ่น? 
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจ และมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับไทย ทั้งในภาคการศึกษา การทำงาน และการท่องเที่ยว 

ข้อดีของภาษาญี่ปุ่น: 

• มี เสียงออกเสียงใกล้เคียงภาษาไทย และไม่มีเสียงซับซ้อน 

• ระบบไวยากรณ์มีรูปแบบแน่นอน และเน้นความสุภาพ 

• มีแหล่งเรียนรู้ในไทยมาก เช่น โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัย, แอป, YouTube 

สิ่งที่ทำให้ภาษานี้ยากขึ้น: 

• ระบบเขียน 3 แบบ (ฮิรางานะ, คาตากานะ และคันจิ) ต้องใช้เวลาท่องจำ 

• คำศัพท์บางคำใช้คันจิที่เขียนซับซ้อน 

• ต้องเรียนรู้ระดับภาษา (สุภาพ, ธรรมดา, ถ่อมตน) 

เหตุผลที่ภาษาจีนกลายเป็นภาษายอดนิยมทั่วโลก: 
จีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และหลายธุรกิจในไทยเริ่มต้องการคนที่พูดภาษาจีนได้มากขึ้น การมีภาษาจีนเป็นภาษาที่ 3 จะเพิ่มโอกาสในการทำงานอย่างชัดเจน 

ข้อดีที่ทำให้บางคนเรียนแล้วรู้สึกง่าย: 

• ไวยากรณ์ไม่ซับซ้อนเท่าภาษาอังกฤษ (ไม่มี Tense, คำผันกริยา ฯลฯ) 

• โครงสร้างประโยคคล้ายไทย เช่น “ฉันกินข้าว” = “我吃饭” (หว่อ ชือ ฟั่น) 

• ใช้ตัวอักษรจีน (ฮั่นจื้อ) ที่มีรูปภาพแทนความหมาย ช่วยให้จำได้ด้วยภาพ 

อุปสรรคหลัก: 

• เสียงวรรณยุกต์ (4 เสียง) ต้องออกเสียงให้ถูกต้อง ไม่งั้นจะสื่อสารผิดความหมาย 

• ตัวอักษรจีนต้องจำจำนวนมาก 

• ต้องฝึกฟัง-พูดบ่อย เพราะการอ่านอย่างเดียวไม่พอ

ทำไมภาษาฝรั่งเศสยังคงมีความสำคัญ? 
ฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการในองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UN, UNESCO และยังมีประเทศในแอฟริกาและยุโรปที่ใช้ภาษานี้เป็นภาษาราชการ 

ข้อดีสำหรับคนที่เคยเรียนภาษาอังกฤษ: 

• มีรากศัพท์ร่วมกันหลายคำ เช่น “éducation” (education) 

• ฟังดูหรูหราและเป็นทางการ 

• มีคอร์สเรียนออนไลน์และหนังสือเรียนจำนวนมาก 

ความท้าทาย: 

• คำนามมีเพศ (ชาย/หญิง) และต้องใช้คำคุณศัพท์ให้ตรง 

• การออกเสียงไม่ตรงกับคำเขียน เช่น “eaux” อ่านว่า “โอ” 

• ไวยากรณ์มีโครงสร้างเฉพาะ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ 

จุดแข็งของภาษาเยอรมัน: 
เยอรมนีเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรม วิศวกรรม และเทคโนโลยีในยุโรป หากคุณสนใจเรียนต่อด้านวิศวกรรม, การแพทย์, หรือวิทยาศาสตร์ ภาษาเยอรมันเป็นทางเลือกที่ดีมาก 

จุดเด่น: 

• คำศัพท์หลายคำใกล้เคียงอังกฤษ เช่น “Haus” = house 

• เสียงภาษาแข็งแรง ชัดเจน 

• มีทุนการศึกษามากมายสำหรับผู้เรียนภาษาเยอรมัน 

จุดที่ทำให้เรียนยาก: 

• มี เพศของคำนาม 3 แบบ: der (ชาย), die (หญิง), das (กลาง) 

• ไวยากรณ์ซับซ้อน ผันคำหลากหลาย 

• คำศัพท์ยาว เช่น “Krankenversicherung” (ประกันสุขภาพ) 

• อยากสื่อสารกับหลายประเทศในละตินอเมริกา → เลือก ภาษาสเปน 

• ชอบวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก → เลือก ภาษาญี่ปุ่น เกาหลี หรือจีน 

• วางแผนเรียนต่อหรือทำงานในยุโรป → เลือก ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน 

• ต้องการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในจีน → เลือก ภาษาจีนกลาง 

ในยุคที่โลกเชื่อมโยงกันอย่างรวดเร็ว การมีทักษะภาษาที่ 3 กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในทุกด้าน ทั้งการทำงาน การศึกษา และการเดินทาง แต่หลายคนอาจสงสัยว่า จะเริ่มเรียนภาษาที่ 3 ภาษาไหนดี ที่จะเรียนรู้ได้เร็วและนำไปใช้งานได้จริง? ที่ Speakup เรามีคำแนะนำภาษาที่ 3 ที่เหมาะกับคนไทย และช่วยให้คุณเก่งภาษาได้ไวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ 

ทำไมต้องเลือกเรียนภาษาที่ 3 กับ Speakup? 

หลักสูตรออกแบบเฉพาะ สำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้เร็ว 

• ครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ ช่วยแนะนำเทคนิคจำง่าย 

สื่อการเรียนรู้ทันสมัย ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ 

สอบถามคอร์สเรียน

ดูคอร์สเรียนภาษาที่ 3 

สอบถามคอร์สเรียน

ดูคอร์สเรียนภาษาที่ 3 

การเรียน ภาษาที่ 3 ไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากคุณเลือกภาษาให้ตรงกับความสนใจและเป้าหมายของตัวเอง อย่าลืมว่า “ความง่าย” หรือ “ความยาก” ของภาษานั้นขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคนด้วย หากยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากภาษาไหนดี ลองเรียนพื้นฐานฟรีจาก YouTube หรือแอปพลิเคชัน เช่น Duolingo, Drops หรือ LingQ เพื่อค้นหาภาษาที่ใช่สำหรับคุณ