ทำไมคุณถึงกลายเป็น ‘คนใบ้’ ในห้องประชุม ทั้งที่ Technical Skill แน่นปึ้ก? วิเคราะห์สาเหตุ เรียนภาษาอังกฤษ ที่คุณอาจไม่เคยรู้

เคยไหม? นั่งอยู่ในห้องประชุม Global Meeting ที่เต็มไปด้วย ผู้บริหารระดับสูง กราฟในมือนั้นคุณเป็นคนทำ ตัวเลขทุกตัวคุณรู้ลึกที่สุด… แต่เมื่อถึงเวลาต้อง Debate หรือแสดงวิสัยทัศน์ คุณกลับเปิดโหมด “Silent Mode” 

  • ได้แต่พยักหน้า (Nodding) และพูดแค่ “Yes, I agree.” 
  • เจ็บใจที่สุดคือเห็น รุ่นน้อง” หรือคนที่ เก่งน้อยกว่า” แย่งซีนไปพูด นำเสนอไอเดีย (ที่จริงๆ ตื้นกว่าของคุณ) แต่เขากลับได้รับคำชมและความก้าวหน้าเพียงเพราะเขา “Speak Up” ได้คล่องกว่า 

นี่ไม่ใช่เรื่องของความสามารถในการทำงาน แต่มันคือ “The English Glass Ceiling” (เพดานแก้วทางภาษา) ที่กำลังกดทับเงินเดือนและตำแหน่งของคุณอยู่ จนทำให้หลายคนเริ่มมองหาที่ เรียนภาษาอังกฤษ เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง

ทำไมเราถึงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้?

3 สาเหตุทางจิตวิทยาที่ทำให้คนเก่งส่วนใหญ่ “ปากหนัก” แม้จะเรียนภาษาอังกฤษมาทั้งชีวิต 

  1. Cognitive Overload (สมองล้าจากการแปล): การพยายามแปลไทยเป็นอังกฤษในหัว พร้อมกับการคิดกลยุทธ์ธุรกิจ ทำให้สมองประมวลผลไม่ทัน จนเลือกที่จะ “เงียบ” เพื่อความปลอดภัยจากการพูดผิด 
  1. Perfectionism Paralysis (กับดักความสมบูรณ์แบบ): ผลพวงจากระบบการศึกษาไทยที่เน้นจับผิด Grammar ทำให้ผู้ใหญ่วัย Gen Y กลัวการพูดผิด เพราะกลัวจะดู “ไม่ฉลาด” ในสายตาลูกน้องหรือเจ้านาย 
  1. The Imposter Syndrome (โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่งจริง): เมื่อทักษะการสื่อสาร ไม่เท่ากับ” ระดับความคิด (Intellect) จะเกิดความรู้สึก “ตัวเล็กลง” (Inferiority) ทำให้สูญเสียความมั่นใจในความเป็นผู้นำทันที 

เจาะลึกปัญหาของวัยทำงานที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้  

คุณไม่ได้พูดไม่ได้เพราะ “คลังศัพท์น้อย” (จริงๆ คุณรู้ศัพท์เยอะกว่าเด็กจบนอกบางคนด้วยซ้ำ) แต่ปัญหาคือ “Gap ระหว่างความคิด vs สิ่งที่พูดออกมา” 

  • ในภาษาไทย: คุณคือเสือ คือผู้บริหารที่เฉียบขาด สั่งงานฉะฉาน เป็นผู้นำที่ลูกน้องเกรงใจ 
  • ในภาษาอังกฤษ: คุณรู้สึกเหมือนกลับไปเป็น เด็ก 5 ขวบ” ที่เรียบเรียงประโยคไม่ถูก ไม่กล้าสบตา 

ความแตกต่างนี้สร้างความอึดอัด จนคุณเลือกที่จะสร้างเกราะป้องกันด้วยการ ไม่พูด” ดีกว่าพูดออกไปแล้วดู “Unprofessional” หรือกลัวลูกน้องเอาไปนินทาว่า หัวหน้าเก่งแต่เทคนิค แต่ภาษาไม่ได้เรื่อง” 

ผลกระทบที่แพงกว่าค่าคอร์สภาษาอังกฤษ 

การติดอยู่ใน Glass Ceiling นี้นานเกินไป ส่งผลเสียมากกว่าที่คุณคิด: 

  • Career Stagnation: ตำแหน่ง C-Level หรือ Regional Role ต้องการ Communication Skill มากกว่า Technical Skill ถ้าคุณสื่อสาร Vision ไม่ได้ คุณก็ไปต่อไม่ได้ 
  • Lost Trust: ชาวต่างชาติมักเชื่อมโยง “ความคล่องแคล่วทางภาษา” กับ “ความสามารถในการทำงาน” (แม้มันจะไม่เกี่ยวกัน 100% ก็ตาม) การที่คุณเงียบ ทำให้เขาตีความว่าคุณ ไม่มีไอเดีย” 

ทางออก เปลี่ยนจาก “คนใบ้” เป็น “Global Leader” 

การแก้ปัญหานี้ ไม่ใช่การกลับไปนั่งท่อง กริยา 3 ช่อง สำหรับคุณ การตัดสินใจ เรียนภาษาอังกฤษ เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด แต่ครั้งนี้ต้องเน้นการ “Reskill Mindset & Executive Presence” 

  1. เลิกแปล เลิกเป๊ะ (Focus on Message, not Grammar): เปลี่ยนโฟกัสจากการ “พูดให้ถูกไวยากรณ์” เป็น “พูดให้ได้ผลลัพธ์ (Impact)” 
  1. ใช้ Executive Vocab: เรียนรู้ชุดคำศัพท์ที่พูดแล้วดูแพง ดูเป็นผู้นำ โดยไม่ต้องใช้ประโยคซับซ้อน (เช่น ใช้ Clarify แทน Tell me more
  1. Safe Environment Practice: ฝึกในที่ที่ปลอดภัย (High Privacy) กับ Coach ที่เข้าใจ Business Context เพื่อทลายกำแพงความกลัว ก่อนลงสนามจริง 

ทำไมวัยทำงานส่วนใหญ่ถึงเลือก “เรียนภาษาอังกฤษ” ที่ Speak Up Thailand? 

หากคุณคือคนที่มีไม่มี “เวลา” และต้องการผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง Speak Up Thailand คือคำตอบที่ออกแบบมาเพื่อคนวัยทำงานโดยเฉพาะ เราไม่ได้แค่สอนภาษา แต่เราสอนให้คุณ “Speak Up” อย่างมั่นใจ ด้วยหลักสูตรมาตรฐานยุโรป (CEFR) ที่ฉีกกฎการ เรียนภาษาอังกฤษ แบบเดิมๆ 

วิเคราะห์จุดเด่น (Pros) ที่เหมาะกับคุณ: 

  • Immersion Method (เรียนแบบธรรมชาติ): เลิกท่องจำ แต่เน้นการซึมซับเหมือนเจ้าของภาษา ฝึกให้สมองคิดเป็นภาษาอังกฤษทันที แก้ปัญหา Cognitive Overload ได้ตรงจุด 
  • Flexible Schedule (เวลาเป็นของคุณ): เข้าใจดีว่าตารางงานของคุณอาจไม่แน่นอน คุณสามารถเลือกเวลาเรียนเองได้ ยืดหยุ่น 100% ไม่ต้องทิ้งคลาสให้เสียเงินฟรี 
  • Premium & Private: มีคลาสกลุ่มเล็ก (Small Group) หรือตัวต่อตัว ทำให้คุณกล้าพูด กล้าผิดพลาดใน Safe Environment ไม่ต้องเขินอายใคร 
  • Personal Coach: มีโค้ชส่วนตัวติดตามผลการเรียนอย่างใกล้ชิด มั่นใจได้ว่าเงินทุกบาทที่จ่ายไป จะเปลี่ยนเป็นทักษะที่ติดตัวคุณตลอดชีวิต 

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ  

  • ไม่เหมาะกับ: คนที่ต้องการเรียนเพื่อไปสอบ Grammar (เพราะเราเน้นการสื่อสารและการใช้งานจริง) 
  • ไม่เหมาะกับ: คนที่ไม่อยากพูด (เพราะคลาสของเราบังคับให้คุณต้องขยับปากพูด ตั้งแต่วันแรกที่เรียน) 

อย่าปล่อยให้ภาษาอังกฤษ เป็นเพดานกั้นความสำเร็จของคุณอีกต่อไป” 

ลงทุนกับตัวเองวันนี้ เพื่อผลตอบแทนที่ประเมินค่าไม่ได้ในอนาคต 

 ทดลองวัดระดับภาษาฟรี (Free Placement Test) พร้อมรับคำปรึกษาวางแผนการเรียนภาษาอังกฤษส่วนตัว หรือทักแชทสอบถามโปรโมชั่นสำหรับคอร์สภาษาอังกฤษได้เลยครับ 

This will close in 0 seconds