การ เรียนพูดภาษาอังกฤษ ไม่จำเป็นต้อง เริ่มพูดภาษาอังกฤษ จากแกรมม่าซับซ้อน แต่สามารถเริ่มต้นง่ายๆ ด้วย ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณพูดได้จริงและมั่นใจขึ้นทีละขั้น สำหรับใครที่อยากพัฒนาทักษะการพูดแบบเห็นผลเร็ว คอร์สเรียนพูดกับ Speak Up จะช่วยให้การฝึกภาษาของคุณมีโค้ชคอยดูแล ปรับการเรียนให้เหมาะกับเป้าหมาย และทำให้คุณพูดคล่องในเวลาสั้นลง 

• 🗣️ พูดได้ตั้งแต่วันแรก: ไม่ต้องท่องไวยากรณ์ซับซ้อน 

• 🚀 เรียนรู้ได้เร็ว: การจำประโยคสำเร็จรูปช่วยให้พูดคล่อง 

• 💡 สร้างความมั่นใจ: การพูดประโยคที่ใช้จริงจะทำให้กล้าสื่อสารมากขึ้น 

• 🎯 เรียนกับครูผู้เชี่ยวชาญ: Speak Up มีคอร์สตัวต่อตัวและกลุ่มเล็ก พร้อมโค้ชดูแลแบบส่วนตัว 

1. ฝึกทุกวัน วันละ 5-10 นาที: เน้นสม่ำเสมอมากกว่าครั้งละนานๆ 

2. ฟังเจ้าของภาษา ผ่าน YouTube, Podcast, ซีรีส์ 

3. ใช้เทคนิค Shadowing พูดตามเสียงเพื่อปรับสำเนียง 

4. เรียนกับครูในคอร์ส Speak Up: ได้คำแนะนำเฉพาะบุคคลและการแก้จุดอ่อนแบบตรงจุด 

1. Hello! / Hi! = สวัสดี 

2. How are you? = สบายดีไหม 

3. I’m fine, thank you. = ฉันสบายดี ขอบคุณ 

4. Nice to meet you. = ยินดีที่ได้รู้จัก 

5. What’s your name? = คุณชื่ออะไร 

6. My name is … = ฉันชื่อ… 

7. Where are you from? = คุณมาจากไหน 

8. I’m from Thailand. = ฉันมาจากประเทศไทย 

9. How’s it going? = เป็นไงบ้าง 

10. Long time no see! = ไม่เจอกันนานเลย! 

11. What are you doing? = ทำอะไรอยู่ 

12. How was your day? = วันนี้เป็นไงบ้าง 

13. I’m tired today. = วันนี้ฉันเหนื่อย 

14. Let’s go out. = ออกไปข้างนอกกันเถอะ 

15. Take care. = ดูแลตัวเองนะ 

16. That’s great! = ดีมากเลย! 

17. I’m not sure. = ฉันไม่แน่ใจ 

18. Can you repeat that, please? = ช่วยพูดอีกครั้งได้ไหม 

19. I don’t understand. = ฉันไม่เข้าใจ 

20. Could you speak slowly, please? = ช่วยพูดช้าๆ หน่อยได้ไหม 

21. How much is this? = อันนี้ราคาเท่าไหร่ 

22. Can I try this on? = ขอลองใส่ได้ไหม 

23. I’m just looking, thanks. = แค่ดูๆ ขอบคุณค่ะ/ครับ 

24. Do you have this in another size? = มีไซส์อื่นไหม 

25. Can I pay by card? = จ่ายด้วยบัตรได้ไหม 

26. It’s too expensive. = มันแพงเกินไป 

27. Do you have a discount? = มีส่วนลดไหม 

28. Where is the fitting room? = ห้องลองเสื้ออยู่ที่ไหน 

29. I’ll take this one. = เอาอันนี้ค่ะ/ครับ 

30. Can I get a receipt, please? = ขอใบเสร็จด้วยค่ะ/ครับ 

31. Could you send me the file? = ส่งไฟล์ให้ฉันหน่อยได้ไหม 

32. Let’s have a meeting at 3 PM. = ประชุมกันตอนบ่าย 3 

33. Please wait a moment. = กรุณารอสักครู่ 

34. I’ll get back to you soon. = เดี๋ยวฉันจะติดต่อกลับเร็วๆ นี้ 

35. I’m working on it. = ฉันกำลังทำอยู่ 

36. Sorry, I didn’t catch that. = ขอโทษ ฟังไม่ทัน 

37. Could you explain that again? = อธิบายอีกครั้งได้ไหม 

38. I’ll send you an email. = เดี๋ยวฉันจะส่งอีเมลให้ 

39. That sounds good. = ฟังดูดีนะ 

40. Let’s discuss this tomorrow. = มาคุยเรื่องนี้กันพรุ่งนี้ 

41. Where is the restroom? = ห้องน้ำอยู่ที่ไหน 

42. Can you help me, please? = ช่วยฉันหน่อยได้ไหม 

43. I’d like to order a taxi. = ขอเรียกรถแท็กซี่ 

44. How far is it? = ไกลแค่ไหน 

45. I’m lost. = ฉันหลงทาง 

46. Can you show me on the map? = ช่วยชี้ในแผนที่ได้ไหม 

47. How do I get to the airport? = ไปสนามบินยังไง 

48. Is this the right bus/train? = รถบัส/รถไฟนี้ถูกสายไหม 

49. I’d like to check in. = ฉันต้องการเช็กอิน 

50. What time does it open/close? = เปิด/ปิดกี่โมง 

• 🎯 เรียนตัวต่อตัวหรือกลุ่มเล็ก: ได้รับคำแนะนำแบบใกล้ชิด 

• ⏳ เรียนยืดหยุ่น: เลือกเวลาเรียนได้ตามสะดวก ทั้งออนไลน์และที่สถาบัน 

• 🔥 เน้นการพูดจริง: ฝึกสนทนากับครูเจ้าของภาษาและครูไทยผู้เชี่ยวชาญ 

• 🚀 โค้ชช่วยดูแล: มีแผนการเรียนที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคุณ 

การ เรียนพูดภาษาอังกฤษ ต้องใช้เวลาและความต่อเนื่อง อย่าคาดหวังว่าจะพูดได้คล่องในไม่กี่วัน แต่ทุกครั้งที่ฝึกคือการก้าวไปข้างหน้า ลองใช้ประโยคเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน และหากอยากพัฒนาแบบก้าวกระโดด คอร์สเรียนพูดภาษาอังกฤษกับ Speak Up จะช่วยให้คุณมั่นใจและพูดคล่องได้เร็วขึ้นแน่นอน