
If clause คืออะไร สรุปแกรมม่า รวมวิธีใช้ 4 แบบ เข้าใจง่าย
If-clause แกรมม่าพื้นฐานที่หลายๆ คนสับสนมากที่สุด! ในภาษาอังกฤษ จะเรียกแกรมม่าเรื่องนี้ว่า Conditional Sentences หรือ ประโยคเงื่อนไข ซึ่งวิธีใช้จะแบ่งออกเป็น 4 แบบ วันนี้ Speak Up Thailand โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ จะมาสรุปแกรมม่าเรื่องนี้ให้เข้าใจง่ายๆ กัน
Conditional Sentences คืออะไร
ประโยคเงื่อนไข หรือ ประโยคที่อธิบายความสัมพันธ์ของ 2 การกระทำหรือเหตุการณ์อย่างมีเงื่อนไข อย่างเช่น ถ้าสิ่งหนึ่งเกิด อีกสิ่งหนึ่งจะตามมา ส่วนใหญ่จะใช้บอกความเป็นเหตุเป็นผลหรือเรื่องสมมติ
โครงสร้างประโยค
If + present simple, present simple
(Subject + Verb ช่อง 1) (Subject + Verb ช่อง 1)
ตัวอย่าง If-clause: Type 0
If you heat the ice, it melts.
ถ้าคุณเอาน้ำแข็งไปอุ่น มันจะละลาย
If I drink a lot of coffee, I stay awake all night.
ถ้าฉันดื่มกาแฟเยอะ ฉันจะรู้สึกตื่นตลอดทั้งคืน
โครงสร้างประโยค
If + present simple, future tense
(Subject + Verb ช่อง 1) (Subject + will + Verb ช่อง 1)
ตัวอย่าง If-clause: Type 1
If you eat too much candy, you will get cavities.
ถ้าคุณกินลูกอมมากเกินไป ฟันจะผุได้
If it rains tomorrow, we will cancel the trip.
ถ้าฝนตกพรุ่งนี้ พวกเราจะยกเลิกทริปเที่ยว
โครงสร้างประโยค
If + past simple, present conditional
(Subject + Verb ช่อง 2) (Subject + would + Infinitive verb)
ตัวอย่าง If-clause: Type 2
If I won the lottery, I would travel around the world.
ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่ ฉันจะไปเที่ยวรอบโลก
If I were you, I would break up with him.
ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะเลิกกับเขา
โครงสร้างประโยค
If + past perfect, past conditional
(Subject + had + Verb ช่อง 3) (Subject + would have + Verb ช่อง 3)
ตัวอย่าง If-clause: Type 3
If he had studied, he would have passed the exam.
ถ้าเขาตั้งใจอ่านหนังสือสอบ เขาน่าจะสอบผ่าน (แสดงว่าเขาไม่ได้ตั้งใจอ่านหนังสือ ผลคือสอบไม่ผ่าน)
If I had helped him, he would have finished the project in time.
ถ้าฉันช่วยเขา เขาคงทำโปรเจกต์เสร็จทันเวลา (แปลว่าฉันไม่ได้ช่วยเขา งานเขาเลยเสร็จช้า)

โปรโมชั่นคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์
พิเศษ สำหรับเดือนนี้เท่านั้น
Intensive Course เรียนสดออนไลน์ 40 ชั่วโมง 3 เดือน